Post-flop PLO เล่นอย่างไรให้เก่งแบบเทพ

Post-flop PLO เล่นอย่างไรให้เก่งแบบเทพ

หลังจากเรามีพื้นฐานการคัดไพ่เริ่มต้น (อ่านปูพื้นฐาน PLO) และ Raise ปั้นพอทมาตรง Pre-flop แล้ว คราวนี้เรามาดูวิธีการเล่น Post-flop กันดีกว่า อย่างที่เรารู้ๆกันว่าเกม PLO เป็นเกมที่เน้น Draw และ Re-draw กับ Nuts เพราะฉะนั้นองค์ประกอบของบอร์ด (Board Texture) ที่เป็นไพ่กองกลางทั้ง 5 ใบจึงสำคัญมาก

เราต้องมีความสามารถในการอ่านที่แม่นยำว่าบอร์ดตอนนี้มันเชื่อมต่อกันแค่ไหนแล้วจะเข้ากับไพ่บนมือเราหรืออีกฝ่ายมากกว่ากัน นอกจากนี้ก็ยังต้องดูการเล่นของอีกฝ่ายว่าเขาเล่นมายังไง Bet ออกมาก่อนมั้ยหรือ Check อย่างเดียวแล้วจึงตัดสินใจ ซึ่งพอเรามีพื้นฐานทั้งหมดตรงนี้ก็จะสรุปออกมาได้เป็นข้อๆดังนี้

1. ดู Texture ของ Flop

อย่างที่บอกไปว่าการเล่น Post-flop ให้ได้ดีต้องมีทักษะการอ่านบอร์ดให้ออกว่าเหมาะกับเราหรืออีกฝ่ายมากกว่า ทีนี้เรามาดูที่บอร์ดตัวอย่างสองอันนี้ก่อน อันแรกคือ 8-9-10 มี 2 ใบสีเดียวกันและบอร์ดอันที่สองคือ 2-8-K ทั้ง 3 ใบคนละสี แล้วสมมติว่าเราถือ A-A-x-x (ทั้ง 4 ใบคนละสี) ในทั้งสองสถานการณ์และตัดสินใจว่าจะ Bet ดีหรือไม่

Flop 1: 8-9-10 (2 ใบสีเดียวกัน) ตรงนี้อีกฝ่ายอาจจะติด Straight ไปแล้วก็ได้หรือไม่ก็มี Draw ที่ Outs เยอะมากและเราไม่มี Flush Draw เลยเราจึงควรหมอบ AA ของเราทิ้งไปดีกว่า

Flop 2: 2-8-K (3 ใบคนละสี) บอร์ดนี้จะตรงข้ามกับบอร์ดแรกเลย จะเป็นบอร์ดที่แห้งสุดๆเพราะ Flush หรือ Striaght Draw ก็ไม่มีแถมไพ่ต่ำทั้งสองใบยังดูเป็นไปได้ยากที่อีกฝ่ายจะมี Set อีก ไพ่ที่อันตรายจริงๆตรงนี้คือพวก 2 คู่ หรือ Set K (KK ถ้าอีกฝ่ายไม่ได้ Raise ตรง Pre-flop ก็มีความเป็นไปได้น้อยลง) เพราะฉะนั้นเราจึงสามารถ Bet ด้วย AA ของเราตรงนี้ได้แล้วถ้าอีกฝ่ายกล้า Call ตามก็เป็นไปได้ว่าเขาจะมี 2 คู่หรือ Set อะไรสักอย่าง

เราก็ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายมีไพ่อะไรยังไงเราจึงต้อง Raise ตรง Pre-flop เพื่อหาข้อมูลว่าอีกฝ่ายมีแนวโน้มจะถือไพ่แบบไหน โดยถ้าอีกฝ่าย Raise หรือ Re-raise แบบดุๆมาก็เป็นไปได้สูงที่เขาจะมีไพ่คู่สูงๆ (AA, KK) หรือพวก Broadway ที่เรียงติดกัน(ไพ่ฝรั่ง A, K, Q) ซึ่งบอร์ดต่ำๆจะไม่ค่อยติดทางพวกนี้เท่าไหร่

ส่วนบอร์ดเบิ้ลก็ควรจะระวังให้ดี เราจะไม่สามารถ Call บนบอร์ดแบบนี้ได้เลยถ้าไม่ติดอย่างน้อย Set หรือ Full House และเราไม่ควรจะไปตามเอา Flush หรือ Straight ในบอร์ดแบบนี้

2. ต้องรู้ว่าตัวเองมีกี่ Outs

ในโอมาฮาเป็นเรื่องปกติมากที่ไพ่ Draw เยอะๆจะมีโอกาสชนะเยอะกว่าพวกไพ่ที่ติดคู่แล้ว มันจึงสำคัญมากที่เราจะรู้ว่าตัวเองมีกี่ Outs จากการใช้ไพ่ 2 ใบบนมือและ 3 ใบบนบอร์ดรวมกัน มีวิธีฝึกนับง่ายๆคือ แบ่งไพ่ที่มีโอกาสออกตรง Turn หรือ River เป็นหมวดหมู่ต่างๆเช่น

‘Nut Outs’: ไพ่พวกนี้คือไพ่ที่ออกมาแล้วจะทำให้คุณถือ Nut Hand พวก Straight หรือ Flush และ Full House สูงสุด

‘Outs’: ไพ่พวกนี้คือไพ่ที่ออกมาแล้วจะพัฒนาไพ่คุณให้แข็งแกร่งขึ้น

‘Help’: ไพ่ที่ออกมาตรง Turn แล้วจะช่วยให้เพิ่ม Outs ของคุณที่ River มากขึ้น (Backdraw ต่างๆ)

‘Killer Outs’ ไพ่ที่ออกมาแล้วเราจะไม่มีทางแพ้เลย เช่น Straight Flush หรือ Quads ที่สูงที่สุด

จำเป็นกฎง่ายๆเลยว่า ถ้ามี 15 Outs และมีโอกาสได้ Nut Hand ด้วย เราจะนำพวกไพ่คู่ต่างๆอยู่เสมอตรง Flop เพราะฉะนั้น ถ้าเป็นไปได้เราควรจะรีบปั้นพอทให้โตให้สุดเท่าที่จะทำได้ตั้งแต่ตรงนี้เลย

เวลาเจอ Bet หนักๆตรง Flop เราต้องประเมินให้ดีว่าถ้าตามไปติด Draw แล้วเราจะมีโอกาสชนะมากแค่ไหน เพราะการตาม Draw ไปด้วยไพ่ที่ไม่ใช่ Nut Hand ก็ทำให้เราเสียหายหลายแสนได้เสมอ

3. รู้ข้อมูลอีกฝ่าย

ในหัวข้อนี้จะมีอยู่ 4 ปัจจัยที่เราต้องคำนึงถึงคือ

  1. จำนวนผู้เล่นที่เข้ามาดู Flop ยิ่งผู้เล่นเข้ามาเล่นในพอทมากเท่าไหร่เรายิ่งต้องเน้นเล่น Draw ที่เป็น Nut Hand สูงขึ้น
  2. ดูแนวโน้มการเล่นของอีกฝ่าย จะมีบางคนที่จะ Bet เฉพาะ Nut ตรง Flop หรือบางคนก็นัก Call ที่ตามไม่ว่าจะมี Nut Draw หรือไม่ แล้วก็พวกสาย Aggressive ที่ขยัน Raise และ Re-raise ซึ่งต้องสังเกตให้ดีและปรับตัวตามสไตล์การเล่นของเขา ถ้าเจอ Tight หน่อยก็ควรจะหมอบมากขึ้น
  3. ดูตำแหน่งของเราเทียบกับอีกฝ่าย ตำแหน่งสำคัญมากๆใน PLO แน่นอนว่า BTN คือตำแหน่งที่ดีที่สุดไม่ว่าจะเกมไหนๆ สำคัญเลยคืออย่าพยายามพาตัวเองไปอยู่ในสถานการณ์ที่โดนประกบเป็นแซนด์วิชที่ทั้งซ้ายและขวาเราต่าง Raise สู้กัน
  4. ดูว่าใครเป็นคน Lead ตรง Pre-flop คนที่จะ Bet นำออกมาตรง Flop ส่วนใหญ่จะเป็นคนที่ Raise คนสุดท้ายในช่วง Pre-flop ซึ่งการจะ C-bet หรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่างทั้ง จำนวนผู้เล่น Board Texture และอื่นๆที่ได้กล่าวมาก่อนหน้านี้ ถ้าเกิดมีคน Lead Pre-flop มาแล้วเราติด Monster เราก็เลือกได้ว่าจะ Check-raise หรือ Donk Bet ออกมาให้อีกฝ่าย Re-raise (ขึ้นอยู่กับว่าไพ่เราแข็งแกร่งแค่ไหน)

สรุป

จะเห็นได้ว่ามีรายละเอียดในการเล่น Post-flop เยอะมากซึ่งสามารถสรุปเป็นหัวข้อง่ายๆได้ดังนี้

  • ต้องดูว่า Flop Texture เข้าทางของเราหรืออีกฝ่ายมากกว่ากันอยู่เสมอ
  • Draw เฉพาะไพ่ที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่จะทำได้
  • คำนวณหา Outs และพิจารณาว่าจะ Call ตามตรง Post-flop ดีมั้ย (และเป็น Nut Outs รึเปล่า)
  • ถ้าเป็นไปได้ให้เล่นจากตำแหน่งที่ได้เปรียบเสมอ ถ้าไม่ได้อยู่ BTN ก็อย่าให้ตัวเองเป็นแซนด์วิช
  • คอยสังเกตแนวโน้มการเล่นของอีกฝ่ายตลอดและดูว่าคนไหนที่เราพอจะกินตังค์ได้บ้างและคนไหนขี้บลัฟ

แค่นี้เราก็พร้อมไปมันส์และทำเงินกันแล้ว ก่อนจะมันส์ก็อย่าลืมหาโต๊ะที่ Fish เยอะๆด้วย Table Selection สำคัญมาก ถ้าคิดไม่ออกก็ขอแนะนำแอพน้องใหม่ไฟแรงอย่าง UPoker รับประกัน Fish เป็นบ่อ สามารถติดต่อได้ที่ Line: @tpbonline ได้เลยครับ (อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม)

 

ที่มา

แสดงความเห็น