การเล่น Pre-flop ในทัวร์นาเมนต์ – ตำแหน่ง Big Blind (BB)
Pre-flop ในทัวร์นาเมนต์ – ตำแหน่ง Big Blind (BB)
การเล่น Pre-flop ในทัวร์นาเมนต์ – ตำแหน่ง Big Blind (BB) ก็จะค่อนข้างแตกต่างจากตำแหน่ง SB เพราะเราได้ราคาที่คุ้มกว่าและเป็นคนปิด Action ในช่วง Pre-flop เราจึงดีตรงที่ไม่มีทางโดน Re-raise เลย ซึ่งข้อดีตรงนี้ทำให้เราสามารถเล่นไพ่ได้กว้างกว่าตำแหน่ง SB
แต่เราก็ยังต้องหมอบไพ่เยอะอยู่ดีถ้าเจอกับพวกที่ Raise มาจาก EP และ Call เมื่อได้ไพ่ที่เล่นได้ดีอย่าง AQ+, 22+ และ Suited Connectors ใหญ่ๆและให้เล่นอย่างระมัดระวังด้วย ถ้าอีกฝ่าย Raise จาก MP หรือ LP คุณก็สามารถ Call ด้วยไพ่ที่กว้างกว่าเดิมได้ อาจจะเป็น 22+, AJ+, A2s+, KJ+, QJ และ Suited Connectors และก็เหมือนเดิมให้เล่นแบบระมัดระวังด้วย เพราะการ Call ไปดู Flop หรือที่เรียกกันว่า “การปกป้อง Blind (Big Blind Defending)” นั้นเราสามารถเสียชิพได้มหาศาลเช่นกัน อย่างถ้าเราป้องกันด้วย Q5s แล้ว Flop ออก Q-8-3 ตรงนี้ส่วนใหญ่ถ้าคุณไม่ชนะพอทเล็กๆก็เสียพอทใหญ่ๆให้กับไพ่ที่ดีกว่าหรือคู่ Q ที่ Kicker สูงกว่าเรา
การ Re-raise จากตำแหน่ง BB
การ Call ไปดูนอกจากจะเสียเงินน้อยเรายังไม่ต้องไปกังวลว่าจะต้องไปคอยกันให้คนอื่นออกจากพอทอีกด้วย การ Re-raise ตรงตำแหน่งนี้ก็จะเหมือนๆกับ SB อย่างถ้าเราเจอตำแหน่ง MP และ LP เราก็จะ Re-raise บ่อยกว่าเวลาเจอพวกตำแหน่ง EP Open-raise มา โดยอาจจะ Re-raise ด้วยไพ่พวก 88+, A9+, KT+ และ Suited Connectors บ้าง ส่วนเวลามี Premium โดยพื้นฐานแล้วก็ควรจะ Re-raise ทุกครั้ง แต่โดยปกติก็จะ Call เฉยๆด้วยไพ่ที่มี Implied Odds สูงอย่างพวก 88 กับ 98s และอย่าลืมทำให้ Range ของเราสมดุลด้วย (Balance) เพื่อให้อีกฝ่ายอ่านเรายากขึ้นเวลาเรา Re-raise
ถ้ามีคนพยายามขโมย Blind เราบ่อยๆก็ให้เรา Re-raise กลับบ้างเป็นครั้งคราวเพื่อไม่ให้เขาเหิมเกริมเกินไปนัก สถานการณ์แบบนี้เราสามารถ Re-raise ด้วยไพ่กว้างๆและสามารถทำเงินได้ดีด้วย นอกจากจะทำให้เขาไม่กล้าขโมย Blind มากเกิน เรายังได้ชิพเพิ่มจากการที่เขายอมหมอบบ่อยๆตรง Pre-flop ด้วย
Call Loose ขึ้นเมื่อเป็น Multi-way
ถ้ามีคน Raise และมีคน Call ตามมาก่อนหน้าเราก็ให้เราป้องกันด้วยไพ่ที่กว้างขึ้นได้เพราะเราได้ Odds ที่คุ้มกว่าแถมยังได้ข้อมูลของคนที่ Call ตามก่อนมาถึง Action เราด้วย ตรงนี้เราอาจจะป้องกันด้วย Range ประมาณ 22+, AT+, KJ+, QT+, JT และ Suited Connectors และอาจจะ Re-raise ตั้งแต่ 88+, A9+, KT+ และ Suited Connectors บางอัน
เจอกับคน Limp
ถ้ามีคน Limp มาก่อนหน้าเราส่วนใหญ่ก็ควรจะ Raise ด้วย Premium ผสมกับไพ่กระจอกบ้างเป็นบางครั้ง อย่างถ้ามี 4 คน Limp มาถึงเรา ก็อาจจะ Raise ด้วย Range ประมาณ 88+, AJ+, KQ และผสมไพ่กระจอกสุ่มๆไป ซึ่งเวลาเรา Raise ด้วยไพ่กระจอกๆมือของเราก็จะไม่ได้มีผลมากนักเพราะเราหวังจะขโมยพอทนั้นไปเฉยๆ
ส่วนตัวแล้วจะ Check ไปดู Flop ฟรีถ้ามีไพ่อย่าง 86 เพราะสามารถเล่น Flop ได้ดี และจะดีกว่าถ้าเรา Raise ด้วยไพ่ที่เล่น Flop ได้ไม่ค่อยดีอย่าง A3, K6 และ Q4 แต่ก็ระมัดระวังเวลาเล่นมือพวกนี้ด้วยเพราะเป็นมือที่โดน Dominate
BB สู้กับ SB
ถ้าทุกคนหมอบจนมาเหลือแค่เรากับ SB ตรงนี้เราจะได้เปรียบสุดๆในด้านตำแหน่ง ด้วยเหตุนี้ เราสามารถ Call ไปเล่นด้วยไพ่ที่กว้างขึ้นมากและ Re-raise ด้วยไพ่ที่กว้างขึ้นได้เช่นกันแต่ก็ไม่ใช่ว่าจะเล่นไพ่ขยะๆเลย ไพ่พวกนี้ก็หมอบเหมือนเดิม ถ้าทุกคนหมอบจนมาถึง SB Open-raise เราสามารถ Re-raise ด้วยไพ่อย่าง A2, K5, Q8 และมืออื่นๆที่มี Reverse Implied Odds ได้เลย หรืออาจจะ Re-raise มือดีๆอย่าง 77+, AT+, KJ+ และ QT+ ก็ยังได้ ส่วนพวก Pocket Pair เล็กๆและ Suited Connectors ส่วนใหญ่ให้ Call เพราะเรามี Implied Odds ดีจากตำแหน่งีท่ได้เปรียบ เรา Re-raise ได้กว้างก็จริงแต่ก็พยายาม Call เพื่อใช้ประโยชน์จากตำแหน่งในการทำกำไรด้วย
บางคนเวลาเล่น Blind vs Blind จะกลายเป็นพวกบ้าไปเลย (Maniac) ถ้าเจอกับพวกนี้ให้ Call บ่อยๆเพื่อพยายามให้ติดไพ่เจ๋งๆให้ได้และระวังการ Re-raise ด้วยไพ่อ่อนๆเพราะเขาอาจจะ 4-bet กลับด้วยไพ่กว้างและทำให้เราคิดหนักเช่นกัน
โดยสรุปแล้วเราก็ควรจะเล่น Tight Aggressive จากตำแหน่ง BB แต่พอเราเริ่มสั่งสมประสบการณ์มากขึ้น คุณก็สามารถขยาย Range ตัวเองให้กว้างขึ้นได้ และสามารถขยายให้กว้างขึ้นไปได้อีกเมื่อเริ่มมีการจ่าย Ante เพราะถ้าไม่ทำ เราจะโดนกินบลายด์ไปเรื่อยๆจนหมด ถ้าโดยพื้นฐานเราไม่มีทางทำกำไรจากตำแหน่ง Blind ได้เลย เพราะฉะนั้น เราจึงควรอดทนรอจนถึงเวลาและตำแหน่งที่เราสามารถทำกำไรได้
