Blocker และ Combo นับให้เป็นเห็นไพ่คู่ต่อสู้

การอ่านไพ่คู่ต่อสู้คือสิ่งสำคัญมากในโป๊กเกอร์ เพราะถ้าเรารู้ว่าอีกฝ่ายถืออะไร จะทำอะไรก็ง่ายไปหมดแน่นอน ซึ่งเรื่อง Blocker และ Combo นี่แหละที่เป็นตัวช่วยอีกอย่างนึงในการอ่านไพ่คู่ต่อสู้

เรามารู้จักกับอันแรกกันก่อนนั่นก็คือ Blocker ซึ่งเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ในการใช้นับ Combo มาก แต่มือใหม่หลายคนอาจจะยังไม่รู้จักทั้งสองอย่าง งั้นเรามาดูความหมายคร่าวๆกันก่อนดีกว่า

Combo – ไพ่ 2 ใบบนมือของแต่ละคนจะมาประกอบกันได้กี่แบบ

Blocker –ไพ่ที่เราสามารถมองเห็นได้ไม่ว่าจะเป็นพวกไพ่บนบอร์ด หรือ บนมือ จะช่วยลดจำนวนคอมโบไพ่ของอีกฝ่ายได้มากเท่าไหร่ ซึ่งตรงนี้แหละที่สำคัญในการอ่านไพ่ หลายครั้งที่เราสงสัยว่า อีกฝ่ายจะมีโอกาสถือไพ่เจ๋งๆได้กี่คอมโบกันนะ ถ้าเราได้ Blocker เข้ามาช่วยบางครั้งก็จะลดจำนวนคอมโบที่อีกฝ่ายจะถือไปได้และช่วยให้เราตัดสินใจที่จะบลัฟหรือจับบลัฟได้แม่นยำขึ้น

ตัวอย่าง

ตัวอย่างนี้จะนำมาจากวีดีโอของ Splitsuit.com นะครับ เพื่อให้อ่านง่ายขึ้นผมจึงได้ตัดภาพจากวีดีโอมาประกอบแทน แต่ผมแนะนำให้ดูวีดีโอต้นฉบับเสริมไปด้วยนะครับเพราะช่วยทำความเข้าใจได้มากขึ้นเยอะเลย

ไพ่พวก Pocket Pair ทุกอันจะประกอบกันได้ 6 รูปแบบ หรือ 6 คอมโบ (เช่น AsAd, AsAc, AsAh, AdAc, AdAh, AcAh) ซึ่งในตัวอย่างจะเห็นว่า Kc อยู่บนบอร์ดแล้วซึ่งช่วย Block คอมโบของ Pocket K ลงเหลือแค่ 3 คอมโบ เช่นเดียวกับ JJ TT และ 22 นั่นหมายความว่า ถ้าจะนับคอมโบเฉพาะของตอง (Set) ทั้งหมดบนบอร์ดนี้จะเหลือเพียงแค่ 12 คอมโบเท่านั้น

Blocker และ Combo
Combo ของไพ่ตอง (Set) ทั้งหมด

ทีนี้ถ้าเรา Raise ตรง Pre-flop และอีกฝ่าย Call ตามมาเฉยๆ โดยเราคิดว่าถ้าอีกฝ่ายมี KK เขาน่าจะ 3-bet ไปแล้ว ซึ่งนั่นทำให้เราสามารถตัดคอมโบที่อีกฝ่ายจะถือ KK ออกไปได้เลย หรือ ถ้าคิดว่าเขาไม่น่าจะตาม C-bet เราด้วย 22 เราก็ตัดออกไปและไม่ต้องกังวลถึงตอง 2 ได้เช่นกัน

เราไม่ควรจะไปเสียเวลานับ Blocker และ Combo ทั้งหมด เราควรจะพิจารณาจาก Action ของอีกฝ่ายและค่อยๆตัดคอมโบไพ่ใน Range อีกฝ่ายไปเรื่อยๆ

คำนวณคอมโบของ 2 คู่ (Two Pair)

ทีนี้ถ้าเราจะมานับคอมโบของ 2 คู่กันนะครับ ซึ่งค่อนข้างง่ายทีเดียว แค่เรานำจำนวนที่เหลืออยู่ที่ยังไม่เห็นของไพ่เป้าหมายทั้งสองใบไปคูณกัน อาจจะดูงงๆ ลองดูตัวอย่างกันดีกว่า ถ้าสมมติเราจะหาคอมโบที่อีกฝ่ายมีโอกาสถือ KJ เราจะได้

Blocker และ Combo
K 3 ใบที่เหลือที่ยังไม่เห็น * J 3 ใบที่เหลือที่ยังไม่เห็น = 9 คอมโบของ KJ ทั้งหมด

เราเหลือ K อีก 3 ใบที่ยังไม่เห็นคือ Kh Kd Ks และ J อีก 3 ใบที่ยังไม่เห็นคือ Jh Jd Js เหมือนกัน นำมาคูณกันก็จะได้ 3*3 = 9 ง่ายมากๆ แล้วถ้าจาก Action อีกฝ่ายทำให้เราคิดว่าอีกฝ่ายจะเล่นเฉพาะ KJ สีเดียวกัน (Suited) ล่ะ ตอนนี้เรารู้แล้วว่าไม่มี KcJc แน่ๆ ทำให้เหลือแค่ KdJd KhJh KsJs ซึ่งก็จะเหลือแค่ 3 คอมโบเท่านั้น

ส่วน JT Suited ก็คิดแบบเดียวกันเป๊ะ ตอนนี้เราเห็น Jc และ Ts ซึ่งทำให้เหลือคอมโบของ JT Suited แค่ 2 คอมโบคือ JhTh กับ JdTd ซึ่งแค่คิดแบบนี้ก็จะเห็นได้เลยว่าคอมโบไพ่เจ๋งๆของอีกฝ่ายลดหายไปเยอะ โดยเฉพาะถ้าเราคิดว่าอีกฝ่ายจะเล่นเฉพาะไพ่ Suited

คำนวณคอมโบของ 1 คู่ (One Pair)

เราจะใช้คำนวณพวก 1 คู่ก็ได้นะ เช่น ถ้าเราจะคำนวณคอมโบที่อีกฝ่ายจะถือ AK เรารู้ว่าคอมโบไพ่เริ่มต้นของ AK คือ 16 คอมโบ แต่ทีนี้เราเห็น Kc แล้ว เราก็นำ A อีก 4 ใบที่ยังไม่เห็นไปคูณกับ K อีก 3 ใบที่เหลือก็จะได้ออกมาเป็น AK 12 คอมโบ

Blocker และ Combo
A 4 ใบที่เหลือที่ยังไม่เห็น * K 3 ใบที่เหลือที่ยังไม่เห็น = 12 คอมโบของ AK ทั้งหมด

แล้วก็เหมือนเดิม ถ้าอยากหาเฉพาะคอมโบของ AK Suited ก็จะเหลือแค่ 3 คอมโบคือ AdKd AhKh AsKs เพราะเราเห็น Kc บนบอร์ดแล้ว

คำนวณคอมโบของไพ่เจ๋งๆ

หรือถ้าจะหาคอมโบไพ่แข็งๆอย่าง AQ ก็หาได้เช่นกันโดยเราจะนำ A 4 ใบที่ยังไม่เห็นคูณด้วย Q 4 ใบที่ยังไม่เห็นก็จะหมายความว่า มีคอมโบของ AQ เหลืออยู่อีก 16 คอมโบ

Blocker และ Combo
A 4 ใบที่เหลือที่ยังไม่เห็น * Q 4 ใบที่เหลือที่ยังไม่เห็น = 16 คอมโบของ AQ ทั้งหมด

ควรกลัว Flush Draw ไหม

หลายคนเวลาเห็น Flush เข้าก็เริ่มกลัว แต่พอเรารู้เรื่อง Block และ Combo แล้ว เรามาดูวิธีหากันดีกว่าว่าควรจะกลัวหรือไม่ ถ้าตามบอร์ดเดิมที่เห็น เราเห็นทั้ง Kc กับ Jc ออกมาแล้ว นั่นทำให้เราสามารถตัดคอมโบของ AcKc AcJc QcJc QcKc และคอมโบคู่อื่นๆที่เกี่ยวข้องกันออกไปได้เลย เพราะไพ่พวกนั้นโดนไพ่ Kc กับ Jc เป็น Blocker ให้เราแล้ว

Blocker และ Combo
Kc กับ Jc เป็น Blocker ให้กับ Flush Draw สำคัญๆอย่าง KcQc หรือ JcTc

แต่ก็เป็นไปได้ที่เขาจะมี AcQc หรือ Ac10c Qc10c เหลือ Flush Draw แบบอื่น เราก็ต้องมาดู Action อีกฝ่ายว่าถ้าเขามีเขาจะ Raise ไหมหรือ Call เฉยๆ ตรงนี้จึงสำคัญมากที่ต้องคอยสังเกต Action ของอีกฝ่ายและนำมาคิดด้วย

ถ้าเขาจะ Raise เฉพาะ Flush Draw ใหญ่ๆอย่าง 10c9c ขึ้นไปและจะ Call พวกเล็กๆอย่าง 4c5c 5c6c 6c7c 7c8c 8c9c เราก็ไม่ต้องไปแตกตื่นเลย เพราะเหลือแค่ 5 คอมโบที่เป็นไปได้เอง

ซึ่งหลายคนมักจะกลัวเกินไปเวลา Flush เข้า แต่ถ้าคิดถึงเรื่อง Blocker และ Combo พร้อมกับ Action ของอีกฝ่าย เราจะสามารถลดคอมโบที่อีกฝ่ายจะมี Flush ไปได้เยอะมากจนแทบไม่ต้องกังวลเลย

นำไพ่บนมือมาช่วยคำนวณ

นอกจากใช้ไพ่บนบอร์ดแล้ว เราควรจะใช้ไพ่บนมือด้วย สมมติว่าเราถือ JdTd ถ้าเราอยากจะหาคอมโบของ KJ Suited ที่อีกฝ่ายมี จะหาได้ดังนี้ เราตัด Kc กับ Jc ไปแล้ว เราก็มาตัด Jd บนมือเราออกไปด้วย ซึ่งจะทำให้คอมโบ KJ Suited ที่เป็นไปได้ของอีกฝ่ายเหลือแค่ KhJh กับ KsJs

Blocker และ Combo
คอมโบที่เหลือจริงๆของ KJ Suited

ส่วน JT Suited ก็เช่นเดียวกัน เราตัด Jc กับ Ts จากบนบอร์ดและ Jd10d บนมือเรา ทำให้เหลือแค่ JhTh เท่านั้นที่อีกฝ่ายสามารถมีได้

หรือถ้าจะหา KJ รวมๆก็จะได้เป็น K 3 ใบที่ยังไม่เห็น * J 2 ใบที่ยังไม่เห็น = 6 คอมโบของ KJ ทั้งหมดที่เป็นไปได้

สรุป

จะเห็นได้ว่าหลักการนี้ค่อนข้างซับซ้อน แต่เชื่อเถอะว่าถ้าเราได้ฝึกฝนบ่อยๆจะช่วยให้ง่ายขึ้นแน่นอนและยังทำให้คุณอ่านไพ่อีกฝ่ายได้แม่นยำขึ้นอีกด้วย เพราะเมื่อไหร่ที่เรากังวลว่าอีกฝ่ายจะมีไพ่ดีๆหรือเปล่า เราก็สามารถนำความรู้เรื่อง Blocker และ Combo ไปคำนวณพร้อมกับสังเกต Action อีกฝ่ายเพื่อหาโอกาสที่เป็นไปได้จริงๆได้

ก่อนจากกันไป ทาง Splitsuit.com ก็มีแบบฝึกหัดให้เพื่อนๆลองทำเพื่อทบทวนความเข้าใจกันครับ >>>คลิก<<<

*

*

อ่านบทความต้นฉบับ

แสดงความเห็น