Overbet ให้เก่งอย่างเซียนพร้อมตัวอย่างประกอบ
เทคนิคการ Overbet หรือ การ Bet ในราคาที่สูงกว่าราคาพอท เริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้นในตอนนี้ โดยจะมีประโยชน์หลายอย่างหากเราใช้ได้ดี เช่น
- ช่วยให้เราได้กำไรเต็มพิกัดเวลาติดไพ่ดีๆ
- ช่วยเพิ่ม Fold Equity ให้เราเวลา Bluff
- ทำให้อีกฝ่ายต้องตัดสินใจยาก
แล้วสถานการณ์ไหนที่ควรจะใช้ Overbet ล่ะ หรือถ้าอีกฝ่าย Overbet ใส่เรา เราควรจะรับมืออย่างไรดี ในบทความนี้ก็ได้ผู้เชี่ยวชาญด้าน Cash Game อย่าง Fried Meulders มาให้คำตอบครับ
โดยเราจะไปดูแฮนด์ตัวอย่าง 4 อันที่ Fried เป็นคนวิเคราะห์ ซึ่งตัวอย่างพวกนี้นำมาจากสมาชิกของ Upswing Lab
ตัวอย่างที่ 1: Overbet Shove บนบอร์ดที่มีเบิ้ล 2 คู่
ในเกม 25NL 6-Max Zoom มี Effective Stack อยู่ที่ $25
Hero ในตำแหน่ง BB ถือ 
3 คนหมอบ ตำแหน่ง BTN Raise $0.5 และ SB หมอบ
Hero 3-bet $2 และ BTN 4-bet $4.30 จากนั้น Hero Call
Flop ($8.7): 
Hero Check BTN Check
Turn ($8.7): 
Hero Bet $2.74 BTN Call
River ($14.18): 
Hero All-in $18 BTN Call
BTN ชนะ $48.80 ด้วย 
บทวิเคราะห์จาก Fried
เราต้องระวังในการเลือกไพ่มาบลัฟตรงนี้ เพราะในบอร์ดแบบนี้มันจะดูเหมือนบลัฟมากเกินไป
เวลาตัดสินใจว่าควรจะบลัฟตรงนี้หรือไม่ เราควรจะวิเคราะห์ดูว่าใน Range เรามีคอมโบไพ่ที่ใช้เล่นเพื่อ Value อยู่มากน้อยแค่ไหน แต่เพราะเรา Call 4-bet จาก BTN ในตำแหน่ง BB เราแทบจะไม่มีคอมโบไพ่พวก Tx หรือ 7x อยู่เลย
เราก็อาจจะมีพวก T9s 78s หรือ 76s ได้เพราะราคา 4-bet ค่อนข้างต่ำ แต่ด้วยความที่บอร์ดเบิ้ลออกมา 2 คู่แล้วทำให้เราเหลือคอมโบไพ่พวกนี้แค่อย่างละ 2 คอมโบเท่านั้น หรือ เราสามารถมีพวก ATs กับ JTs เพิ่มมาอีก 4 คอมโบถ้าเราชอบเล่นไพ่พวกนี้ตรง Pre-flop
เราอาจจะมี Quad 
ก็ได้ ซึ่งทำให้คอมโบ Value ของเราเพิ่มเป็น 11 เพราะฉะนั้น เราต้องเลือกไพ่มาบลัฟดีๆตรง River เพื่อไม่ให้ Range เราดูไม่สมดุล (อ่านเพิ่มเติมเรื่อง Balance Range)
แต่ผมไม่ค่อยอยากจะ Bluff ตรงนี้เท่าไหร่ เพราะอีกฝ่าย Check กลับมาใน Flop ที่เหมาะกับการ C-bet เราไม่ควรไปเดาเอาเองว่าไพ่อีกฝ่ายจะอ่อนเพียงเพราะเขา Check ตรง Flop เนื่องจากผู้เล่นเก่งๆจะมีการ Balance Range ของตัวเองตรงนี้ ซึ่งใน Range ก็จะมี Overpair ทั้งหลายที่สามารถ Call ตามได้ยัน River
ถ้าหากเราจะ Bet ตรง Turn จริงๆ ก็ควรจะ Bet หนักๆเลยเพื่อเพิ่ม Fold Equity ให้ตรง Turn กับ River
ตัวอย่างที่ 2: ไม่มี Blocker ควร Bluff ไหม
แฮนด์นี้นำมาจากสมาชิกของ Upswing Lab ชื่อ Adrian G.
ใน Cash Game 6-Max มี Effective Stack 100BB
Hero ถือ 
ในตำแหน่ง MP
UTG หมอบ และ Hero Raise 2.5BB อีก 3 คนหมอบ และ BB Call
Flop: (5.5BB): 
BB Check Hero Check
Turn: (5.5BB): 
BB Bet 3.4BB Hero Call
River: (12.3BB): 
BB Bet 7.6BB Hero Raise 25BB
Adrian ถามว่า ตรง River ผมสามารถใช้ไพ่นี้บลัฟได้ไหมครับ
(เพิ่มเติม: ในตัวอย่างนี้อาจจะไม่ใช่การ Overbet แต่เราคิดว่ามีประโยชน์กับผู้อ่านจึงนำมารวมใส่ด้วย)
บทวิเคราะห์จาก Fried
ไพ่ Ah3h ตรงนี้ไม่ควรจะใช้ Re-Raise เท่าไหร่เพราะ Blocker กับ Range ดูไม่เหมาะที่จะใช้บลัฟ
ตรง River อีกฝ่ายจะมีคอมโบไพ่ของ Nut Hand อยู่เยอะกว่าเรา เพราะอีกฝ่าย Call จาก BB เขาสามารถมี T7 และคอมโบพวก T7 สีเดียวกันทั้งหมด แต่เราไม่น่าจะมีคอมโบของ T7 ใน Range ของตำแหน่ง MP เลย หรือ พวก 54s กับ 75s เหมือนกัน และด้วยบอร์ดเข้าทาง Range อีกฝ่ายมากกว่า ทำให้มันดูไม่สมเหตุสมผลเท่าไหร่ที่จะ Re-raise Bluff เท่าไหร่
เวลาเราจะบลัฟ เราต้องเลือกไพ่ที่ช่วยลดโอกาสที่อีกฝ่ายจะมีไพ่ที่ดีที่สุดมาใช้ จากตัวอย่าง ไพ่พวก 76s 87s ถือเป็นตัวเลือกที่ดีที่จะใช้บลัฟ เพราะไพ่เหล่านี้จะ Block พวกคอมโบไพ่ตองและไพ่เรียงของอีกฝ่าย
A3 ถือเป็นไพ่ที่ใช้จับบลัฟได้โอเคเลยตรงนี้ เพราะไพ่เราไม่ได้ Block คอมโบที่ใช้บลัฟของอีกฝ่าย
ตัวอย่างที่ 3 เจอ Overbet เวลา Draw ต่างๆไม่ติด
แฮนด์ที่ 3 นี้ได้มาจาก Rohit R. ซึ่งไม่ได้บอกว่าเล่นใน Stake ไหน
ใน 6-Max Cash Game มี Effective Stack 133BB
Hero ถือ 
ในตำแหน่ง BB
UTG หมอบ MP Raise 2.5BB และ 3 คนหมอบ Hero 3-bet 9BB และ MP Call
Flop (18.5BB): 
Hero Check MP Check
Turn (18.5BB): 
Hero Check MP Bet 11.43BB Hero Call
River (41.36BB): 
Hero Check MP Bet 53BB Hero Call
Rohit ถามว่า ควรจะ Call ตามด้วยไพ่อะไรดีในสถานการณ์นี้ตรง River
บทวิเคราะห์จาก Fried
Call ตามตรงนี้ด้วย JJ ถือว่าสมเหตุสมผล เพราะเราถือ J สีแดงทั้งสองอัน ซึ่งเราไม่ได้ Block พวกคอมโบ Flush Draw ที่ไม่ติดต่างๆที่อีกฝ่ายมีโอกาสนำมาใช้ Overbet ใส่เราตรง River อีกอย่างคือเรา Block QJ Suited ซึ่งเป็น Value Hand ที่อีกฝ่ายอาจจะมี
ไพ่อื่นๆที่ควรจะ Call ตามในสถานการณ์นี้ ก็ควรจะเป็น Qx ต่างๆ และคอมโบ AA KK ที่เราเลือก Check ตรง Flop ส่วนพวกไพ่คู่ TT หรือต่ำกว่า ควรจะหมอบเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เสียเงินมากเกินไป
Bet ตรง Turn ก็โอเคนะ อีกฝ่ายอาจจะมีไพ่พวก Qx แล้ว Check ตรง Flop แต่โอกาสก็ลดลงพอ ออกมาตรง Turn แล้วบอร์ดมี Draw เยอะมากอาจจะช่วยให้อีกฝ่ายอยาก Call ตามมากขึ้น ซึ่งทำให้การใช้ Thin Value ด้วย ตรงนี้น่าสนใจทีเดียว
ถ้าโดน Raise หลังจาก Bet ตรง Turn เราก็สามารถ Call ตามไปได้และรอดูตรง River อีกที ถ้าตามทฤษฎี River ออกมาแล้วไม่มีอะไรเปลี่ยน เราควรจะ Call แต่ในความเป็นจริง ผู้เล่นหลายๆคนมักจะไม่ค่อยบลัฟกันตรงนี้ ทำให้การหมอบ ตรงนี้เวลาโดน All-in ใส่ก็ถือว่าโอเค
ตัวอย่างที่ 4: โดน Overbet ตรง River หลังจากโดน Raise ใส่ในบอร์ดเบิ้ล
แฮนด์สุดท้ายมาจาก Sam I. สมาชิกของ Upswing Lab
Cash Game $1/$3 ผู้เล่น 6 คน มี Effective Stack 217BB
Hero ถือ 
ในตำแหน่ง BB
UTG(300BB) Raise $12.2 มี 2 คน หมอบ และ BTN(150BB) Call จากนั้น SB หมอบ และ Hero(217BB) Call
Flop ($37): 
Hero Check UTG Bet $30 BTN Fold และ Hero Call
Turn ($97): 
Hero Bet $40 UTG Raise $140 และ Hero Call
River ($377):
Hero Check UTG Bet $469 แล้ว Hero จะทำไงดี
Sam เพิ่มเติมว่า Villain เป็น Regular ที่เก่งและเป็นเพื่อนของเขา เรามักจะคุยกันเรื่องกลยุทธ์อยู่บ่อยๆและเขาเล่นออนไลน์ในระดับ Low-Stake
บทวิเคราะห์จาก Fried
ไพ่เรามันต่ำเกินไปที่จะไปจับบลัฟ ยิ่งเจอกับ Bet Size ขนาดนี้ เราต้องมีโอกาสเดาให้ถูกถึง 36% เพื่อให้การ Call ครั้งนี้ได้กำไรในระยะยาว เราสามารถ Call พวกคอมโบ 8x ได้เหมือนกัน เพราะเรามีคอมโบ 8x อยู่เยอะจาก Range ไพ่ที่เรา Call Pre-flop จากตำแหน่ง BB นอกจากนี้ก็มีพวก Jx แข็งๆอยู่ด้วย (แต่การ Call ตามด้วยไพ่ Jx ทั้งหมดจะถือเป็นการ Call มากเกินไป)
ถือเป็นไพ่ที่แย่ในการจับบลัฟตรงนี้ เพราะ Block คอมโบพวก Flush Draw ที่อีกฝ่ายอาจจะใช้บลัฟ เราควรจะหมอบ ตรงนี้เสมอเว้นแต่ว่าเราสามารถอ่านใจอีกฝ่ายได้น่ะนะ
ในสถานการณ์แบบนี้ เราสามารถจับบลัฟได้เหมือนกันถ้าเรารู้จักกับอีกฝ่ายเป็นการส่วนตัว แต่ควรจะหลีกเลี่ยงดีกว่าเพราะการเล่นแบบนี้มักจะนำไปสู่การตัดสินใจผิดๆ
สรุป
การเลือกไพ่มาใช้ในการ Overbet สำคัญมากๆนะ
เวลาจะใช้ Overbet เราควรจะเล่นแบบแบ่งไพ่ของเราออกเป็น 2 ขั้ว (Polarized Range) และเลือกบลัฟตามไพ่ Blocker ที่เรามีอยู่ ส่วนเวลาเจอ Overbet ก็พยายามมีสติและคำนวณ Pot odd เพื่อปรับ Range ในการ Call ให้แคบลงอยู่เสมอ
