กลยุทธ์ Sit N Go 45 คน เพื่อทำกำไรอย่างยั่งยืน
Sit N Go 45 คน ถือเป็นรูปแบบที่คนนิยมเล่นมาก ด้วยความรวดเร็วของเกม ความสนุก และมีผู้เล่นไม่เก่งอยู่เยอะ เกมจึงจบไวและมีโอกาสทำกำไรสูงมากกว่าในทัวร์นาเมนต์ที่ต้องเล่นกับผู้เล่นเป็นพันๆคน
1. เป้าหมายหลักของเกม
ใน SNG 45 คน ส่วนใหญ่จะใช้เวลานานพอสมควรก่อนจะถึง Bubble ซึ่งเล่นแบบง่ายๆสไตล์ Super-tight แล้วคอยมองหาโอกาสดีๆในการ Steal ก็สามารถไปถึงได้อย่างไม่ยากเย็น
แน่นอนว่าเป้าหมายหลักๆโดยรวมคือ ต้องเข้า Final Table โดยมีชิพเหลืออยู่มากพอเพื่อที่จะกดดันคู่ต่อสู้ได้หนักๆ โดยเฉพาะพวกสไตล์ Weak-Tight ที่ชอบรออย่างเดียวเพื่อไต่อันดับเอาเงิน ซึ่งการจะทำอย่างนี้ได้คุณต้องผ่านศึกหนักมาหลายช่วง เช่น การสะสมเงินให้มากพอเพื่อใช้ขโมยพอทในช่วง Mid-game
แต่ก็ต้องระวังด้วย เราควรจะเก็บสะสมชิพให้ได้เยอะๆก็จริง แต่เราไม่ควรจะเล่นไพ่กว้างเกินไป การจะเล่นโป๊กเกอร์ให้ได้ดี คุณต้องวิเคราะห์จุดอ่อนคู่ต่อสู้ เล่นในตำแหน่งที่ได้เปรียบและหลีกเลี่ยงการเล่นไพ่ที่เล่นยากๆอย่าง A7
ใน Stake ต่ำๆ ช่วงต้นเกมจะมีผู้เล่นร่วมเล่นหลายคนในพอท (Multi-way) เราควรจะเน้นเล่นไพ่พวกคู่เล็กๆ หรือ Suited Connectors ตามเข้าไปมากกว่าพวกไพ่สูงๆ (เช่น QJ, KJ)
2. ช่วงต้นเกมถึงกลางเกม
กลยุทธ์ Sit N Go 45 คน เมื่อระดับ Blind อยู่ในช่วง 150 คุณต้องเริ่มปรับเปลี่ยนการเล่นไปตามขนาด Stack และนิสัยการเล่นของอีกฝ่าย ในช่วงนี้จะมีผู้เล่นออกจากเกมไปบ้างแล้ว มีพวกได้ Double up หรือ Triple Up ขึ้นมา และ พวกที่เหลือ 5-8 Big Blinds ที่กำลังหาโอกาส All-in อยู่
ด้วยเหตุนี้ คุณต้องฝึกสังเกตขนาด Stack ของผู้เล่นคนอื่นก่อนจะเล่นเสมอ หากยังเหลือพวก Short Stack อยู่ข้างหลัง คุณอาจจะต้องคอล All-in ของพวกนั้นด้วยไพ่อะไรก็ตามที่คุณ Raise ไป เพราะเราจะได้ Pot-odds ที่ประมาณ 2 ต่อ 1 ซึ่งต้องการโอกาสชนะแค่ 34% และเราเจอกับRangeไพ่ของอีกฝ่ายที่ค่อนข้างกว้างจึงทำให้คุ้มค่าแก่การคอล
ส่วนไพ่ Implied odds ประเภท Suited Connectors กับ ไพ่คู่เล็กๆ จะนำมาเล่นได้ยากขึ้นในช่วงนี้ หากคุณจะใช้การ Limp แทนก็อาจจะโดนอีกฝ่าย Raise เพื่อบีบเราให้หมอบ ถ้า Raise เพื่อขโมยก็อาจจะดี แต่ถ้าได้เข้าไปเล่น Flop ก็อาจจะยากหน่อยเพราะตำแหน่งที่เสียเปรียบ
ในช่วงนี้เราสามารถเริ่มขโมยพอทเพื่อสะสมชิพได้แล้ว แต่ก็ต้องวิเคราะห์คู่ต่อสู้ดีๆด้วย เพราะแต่ละคนมีนิสัยการเล่นไม่เหมือนกัน จะ Bet เพื่อ Bluff หรือ Value ก็ต้องปรับเปลี่ยนไปตามผู้เล่นที่เจอ
3. เข้าช่วงท้ายของกลางเกมต้อง Re-steal ให้เก่ง
พอระดับ Blind เข้าใกล้ 300 บวกกับ Antes และน่าจะเหลือประมาณ 2 โต๊ะแล้ว คุณต้องรู้เกี่ยวกับกลยุทธ์ All-in หรือ Fold ดีในระดับหนึ่ง
เมื่อเข้าช่วงนี้ ขนาด Stack โดยเฉลี่ยจะอยู่ประมาณ 12 ถึง 15 Big Blind ซึ่งจะไม่ค่อยได้เล่น Post-flop กันเท่าไหร่ ก็อาจจะมีบ้างหากพวก Stack ใหญ่ๆมาเจอกันเอง แต่ชิพส่วนใหญ่จะมาจากการเล่น Pre-flop ทั้งนั้น
ตัวเลือกของคุณก็เหลือแค่การขโมย Blind กับ Antes หรือ Re-raise เพื่อขโมยคนชิพจากคนที่ Raise มาก่อนหน้า การมีข้อมูลการเล่นและปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ไปตามขนาด Stack ของอีกฝ่ายจึงสำคัญมาก
พอเหลือแค่ 2 โต๊ะสุดท้ายและเริ่มมีผู้เล่นตกรอบเพิ่มไปบ้างแล้ว การเล่นแบบ ICM ก็จะเข้ามามีผลมากขึ้น การเล่นแบบ ICM ก็จะประมาณว่า เรานำเงินรางวัลที่เรามีโอกาสได้ ชิพที่เราเหลืออยู่และจำนวนผู้เล่นมาคำนวณว่าในสถานการณ์ ณ ตอนนั้นเราควรจะ Call หรือ Fold หรือ All-in ด้วยไพ่แบบไหนบ้างเราถึงจะได้กำไรในระยะยาว ซึ่งจำเป็นต้องใช้ประสบการณ์และโปรแกรมมาคำนวณ(เช่น ICMIZER หรือ Holdem Resource)
4. Bubble อันแสนยาวนาน
ใน SNG 45 คน ที่จะมีคนได้รางวัลเพียง 7 คน เมื่อเหลือผู้เล่นเหลือประมาณ 12-13 คนแล้ว ผู้เล่นส่วนใหญ่ก็จะเล่นเพื่อหวังเข้า Final Table กันมากขึ้น และเมื่อเข้า Final Table แล้ว ก็คงไม่มีใครอยากตกรอบในอันดับ 9 หรือ 8 กันหรอก
ซึ่งมันจะส่งผลให้มีการขโมย Blind กับ Antes มากขึ้น หรือการใช้ Re-steal ตรงนี้ก็ได้ผลดีเหมือนกัน โดยเฉพาะเวลาเจอพวก Stack หนาๆที่กำลังเพลิดเพลินกับการขโมย Blind เพราะพวก Stack ใหญ่จะขโมยบ่อยและโอกาสมีไพ่ดีจริงๆมีน้อย เราจึงสามารถเลือกไพ่ที่คิดว่าถ้าสมมติโดนอีกฝ่าย Call มา โอกาสชนะเรายังมากกว่าอยู่หน่อยไปใช้เพื่อ Re-steal ได้
5. Final Table กับการไต่อันดับล่าเงินรางวัล
ในกรณีที่ไม่มีพวก Stack น้อยๆอยู่ในโต๊ะ ขอแนะนำให้คุณมองในแง่บวกและตั้งเป้าเพื่อเอาอันดับต้นๆไว้ก่อน ในช่วงนี้ให้คุณพยายามหากลุ่มคน 2 ประเภท คือ 1. ประเภทที่รอไต่อันดับไปเรื่อยๆ 2. ประเภทที่เล่นเพื่อชนะ
คุณมีโอกาสดีๆที่จะขโมยชิพได้เยอะมากก่อนที่จะหมดช่วง Bubble แต่ถ้าหมดไปแล้ว ผู้เล่นหลายๆคนก็จะเปลี่ยนมา Tight มากขึ้นเพื่อไต่อันดับ ซึ่งแน่นอนว่าจะมีพวก Short Stack ที่รอด Bubble มาได้บางคนจะเริ่มบ้าและ All-in ไปทั่ว คุณก็สามารถนำไพ่ที่กว้างขึ้นไปเสี่ยงเพื่อเอาชิพได้
หากจะเน้นมาเอาดีทางด้าน SNG หรือ Tournament จริงๆ การลงทุนในโปรแกรมเพื่อคำนวณเรื่อง ICM เช่น ICMIZER หรือ Holdem Resource ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าและดีมาก