Early Position (EP) เล่นอย่างไรให้เซียนเหมือนเรียนมา

เทคนิค Early Position เล่นอย่างไรให้เซียนเหมือนเรียนมา 

สวัสดีครับชาว ThaiPokerBeast ในบทความครั้งนี้จะมาแนะนำเทคนิควิธีเล่นในตำแหน่งหัวโต๊ะหรือตำแหน่งแรกๆที่เป็นคนเล่น (Early Position) หลายๆก็คนฟังๆกันมาว่าต้องเล่น Tight อย่างเดียว จะเป็นจริงหรือเปล่านั้นเรามาหาคำตอบกันครับ

Early Position คืออะไร

ในช่วง Pre-flop ตำแหน่งที่นั่งของ Early Position(EP) ก็คือตำแหน่งทางซ้ายถัดจากตำแหน่ง Big Blind ถ้าเป็นโต๊ะ 9 คนก็จะนับ 2 คนถัดจากนี้ด้วย พอมา Post-flop ก็จะเป็นคนแรกๆที่ต้องออก Action ก่อน

ซึ่งการที่เราต้องเล่นก่อนคนอื่นจะทำให้เราได้ข้อมูลอีกฝ่ายน้อยลงจนเหมือนกับต้องเดาเอาเอง นั่นจึงเป็นสาเหตุให้การตัดสินใจในตำแหน่งนี้ยากมาก

เลือกไพ่มาเล่นอย่างไรดี

ถ้าเอาง่ายๆเลยก็คือ ใส่ไพ่ Premium Hands ไปเยอะๆเลย

เราอยู่ตำแหน่งแรกๆก็ไม่ต้องคิดอะไรมาก พยายามคัดไพ่ดีๆไว้แล้วจะดีเอง แต่ก็จำสิ่งที่จะบอกต่อไปนี้หน่อยว่า

  • ให้เราผสมไพ่พวกคู่เล็กๆกับพวกคู่กลางๆอย่าง 10-10 และ J-J ในการ Raise และ Call ไว้ด้วย
  • ไพ่ที่ประกอบด้วยไพ่สูง 2 ใบอย่าง K-Q หรือ J-10 อาจจะดูดีในสายตาเรา แต่จริงๆแล้วมันอาจจะทำให้เราตกที่นั่งลำบากก็ได้ถ้าได้ไปเล่นตรง Post-flop
  • เล่นท่าแปลกๆบ้าง ลองวางกับดักแล้ว Re-raise ด้วย A-A K-K Q-Q ดู โดยเฉพาะเวลาอยู่โต๊ะที่มีแต่คน Aggressive

รวมเทคนิค Early Position

คู่เล็กแต่กำไรไม่เล็ก

ไพ่พวกคู่เล็กๆจะเล่นได้ดีใน Early Position ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะตรง Post-flop ถ้าเราติด Set เราสามารถโกยตังค์จากอีกฝ่ายได้มหาศาล แต่ถ้าไม่ติดเราก็แค่ยอมหมอบไปและเสียเงินไปนิดเดียว

เกมแห่งการเดาสุ่ม

พอ Post-flop มาเราก็จะเล่นยากหน่อยเพราะเราตำแหน่งเสียเปรียบอีกฝ่าย ทีนี้เราจะเลือก Bet หรือ Check ดีล่ะ

  • ถ้าเราได้ไพ่ที่ดีหน่อยและมีผู้เล่นร่วมในพอทหลายคนก็ให้เรา Bet ดีกว่า เพราะจะช่วยให้เรากันพวกที่ Draw ต่างๆออกไปได้เยอะพอสมควร
  • ถ้าเราร่วมโต๊ะกับผู้เล่น Aggressive การนำ Check-Raise มาใช้จะเหมาะกว่า ถ้าเรามั่นใจว่ามี Best Hand ก็ให้ใส่ไปเต็มที่

Check กันบ้าง

ถ้าเราเป็นคน Raise ตรง Pre-flop และมีอีกฝ่าย Call มา การ Check ตรง Flop (โดยมีจุดประสงค์จะ Check-Raise) ก็ถือเป็นตัวเลือกที่ดี

โดยเราจะ Check-Raise ถ้าเรามีไพ่เจ๋งๆอย่าง

  • Overpair (ไพ่คู่ที่ใหญ่กว่าไพ่บน Flop)
  • Top Pair (ไพ่คู่สูงที่สุดที่เราติดบน Flop)

นอกจากจะใช้เพื่อ Value เรายังใช้เพื่อ Bluff ได้ด้วย เช่น ถ้าเรามี A-K แล้วไม่ติดอะไรเลยตรง Flop

แต่ตรงนี้ก็ต้องระวังๆกันหน่อย โดยการเล่นแบบนี้มีข้อดีคือ

  • คุณจะสามารถรักษาการเป็นคนคุมพอทไว้ได้และเป็นการกดดันอีกฝ่ายให้คิดหนัก

ส่วนข้อเสียก็คือ

  • เราจะเสียเงินเยอะกว่ามากในการใช้ Check-Raise เพราะมี Bet ของอีกฝ่ายแล้วเรายังไปเพิ่มใส่อีก

Continuation Bet

หรือ C-bet ถ้าเราเล่นกับผู้เล่น Passive พยายาม Bet หนักๆเวลาติดไพ่ดีๆ และถ้าเราไม่ติดไพ่อะไรมาเลยก็ให้ใช้ C-bet นี่แหละกดดัน เพราะอีกฝ่ายที่ Passive มักจะ Call หรือ Raise เฉพาะเวลามีของดีๆเท่านั้น

หรือจะใช้ Delay C-bet

Delay C-bet ก็คือการที่เราและอีกฝ่าย Check ตรง Flop แล้วพอ Turn ออกมาเราก็ยิง Bet ออกมาเลย

การเล่นแบบนี้จะใช้ได้ดีเหมือนกันเพราะจะทำให้เราดูเหมือนถือไพ่ดีและพยายามจะทำเนียนตรง Flop โดยเฉพาะถ้าอีกฝ่ายเคยเห็น Check-Raise ด้วยไพ่ดีตรง Flop มาก่อนจะทำให้ยิ่งกลยุทธ์นี้ได้ผลดี

Pot Control ให้เป็น

ถ้าเรามีไพ่ที่อยู่ระดับกลางๆหน่อยให้เราพยายาม Pot Control หรือพยายามคุม Pot Size ไม่ให้เราเสียมากเกินไปเวลาแพ้ หลายคนก็คงเคยได้ยินคำกล่าวที่ว่า “เล่นพอทใหญ่เฉพาะเวลามีไพ่ใหญ่เท่านั้น”

เพราะฉะนั้น ถ้าเรามีไพ่กลางๆแล้วเห็นอีกฝ่ายกล้าเล่นมาก เราก็พยายาม Check-Call แทนที่จะไป Raise สู้เพื่อที่จะได้เซฟเงินเราถ้าเกิดแพ้ขึ้นมา

นอกจากนี้ การ Check ยังเป็นการทำให้อีกฝ่ายคิดว่าเรามีไพ่อ่อนๆอยู่ ซึ่งจะเป็นการล่อให้อีกฝ่ายบลัฟแล้วเราจะมีโอกาสจับบลัฟเพื่อทำกำไรมากขึ้นได้

ใช้ Block Bet / Defensive Bet

การ Block Bet ก็คือการ Bet ประมาณ 30% ของ Pot เพื่อหยุดคู่แข่งไม่ให้ Bet หนักๆมาแล้วทำให้เราตัดสินใจยาก

ตรงนี้จะใช้ได้ผลดีเวลาอีกฝ่ายมีไพ่ที่ทำได้ดีที่สุดคือ Call ไม่สามารถ Raise ได้ ซึ่งเราจะเป็นฝ่ายคุมราคาให้ต่ำและได้ Showdown แทนที่จะไปเจออีกฝ่าย Bet ออกมาแพงๆ

แต่ก็ระวังเวลาใช้กับพวกที่เล่นเก่งๆ เขาจะมองว่าไพ่เราอ่อนและอาจจะ Raise เพื่อบลัฟได้เพราะเขาเห็นเราแสดงความอ่อนแอออกมา

สำหรับเทคนิค Early Position ก็มีเพียงเท่านี้ครับ หวังว่าทุกคนจะได้ประโยชน์และสามารถนำไปพัฒนาต่อยอดกันได้นะครับ

 

ที่มา

แสดงความเห็น