การเล่น Pre-flop ในทัวร์นาเมนต์ – ตำแหน่ง Small Blind (SB)

Pre-flop ในทัวร์นาเมนต์ – ตำแหน่ง Small Blind

ปกติถ้าเป็น Pre-flop ในทัวร์นาเมนต์ – ตำแหน่ง Small Blind เราต้อง Tight เพราะเราจะมีตำแหน่งที่เสียเปรียบอีกฝ่ายอยู่เสมอ คือแค่เรื่องตำแหน่งก็ทำให้ไพ่อ่อนๆใช้ทำกำไรไม่ได้แล้ว อีกปัญหานึงเลยก็คือผู้เล่นตำแหน่ง BB บางครั้งเราอาจจะ Call Raise จาก SB เพื่อไปโดนตำแหน่ง BB ที่อยู่หลังเรา Re-raise และเราต้องยอมหมอบตั้งแต่ Pre-flop และเสียเงินไปฟรีๆ ตรงนี้ทำให้โดยพื้นฐานแล้วเวลาเราอยู่ SB ควรจะ 3-bet หรือหมอบไปเลยเวลาเจออีกฝ่าย Raise มาไม่ว่าจากตำแหน่งไหนยกเว้นว่าคุณจะมีมือที่ Implied Odds สูงๆอย่างพวก Pocket Pair หรือ Suited Connectors

เช่น ถ้ามีคน Raise จาก MP และคุณถือพวก QT A8 หรือ 96s อยู่ตรง SB ตรงนี้แนะนำให้หมอบถ้าไม่มีคน Call มาก่อนเลย แต่ถ้าก่อนหน้าเรามีคน Call อาจจะเป็นตำแหน่ง BU หรือ CO Call ตามมาบ้างเราก็สามารถ Call พวก 96s ได้ถ้าทุกคนมี Deep Stack แต่ยังไงคุณก็ควรหมอบพวก A8 QT เพราะมือพวกนี้มักจะโดน Dominate และถ้าเป็นสถานการณ์ Multi-way แบบนี้คุณจะได้ข้อมูลการเล่นจากพวกตำแหน่งที่อยู่ระหว่างคุณกับคน Open-raise อย่างถ้าคนที่ Open-raise C-bet คุณก็จะได้รู้ก่อนว่าผู้เล่นที่ Call ตามมานั้นเขาจะ Action อย่างไรแล้วค่อยมาถึงคุณ

หมอบพวก Suited Connectors ถ้าพอทนั้นเหลือเป็น Heads-up

การที่เรามีตำแหน่งที่แย่กว่าทำให้เราทำเงินได้ยากเวลาติด Flop ดีๆและเราก็ไม่ได้มีโอกาสติด Flop ดีๆบ่อยมาชดเชยตรงนี้ด้วย อย่างถ้ามีคน Raise จาก MP แล้วคุณถือ 97s ตรง SB ถ้าไม่มีคน Call ตามมาก่อนหน้าเลยเราควรหมอบแต่ถ้ามีให้เรา Call หรืออีกทางเลือกหนึ่งคือ ถ้าไม่มีคน Call ตามมาก่อนหน้าให้เรา Re-raise กลับเลย ตรงนี้ถ้าเป็น Deep Stack เจอกับคนเล่นเก่งอาจจะยากเพราะเขาสามารถ Call ตามมาและใช้ตำแหน่งที่ดีกว่าเล่นงานคุณได้ แต่ถ้าเจอกับมือใหม่ก็ถือเป็นตัวเลือกที่ใช้ได้ผลดีเลย

หรือถ้าคุณเจอกับพวกตำแหน่ง Late Position (LP) ที่เล่น Aggressive ที่มักจะหมอบเวลาโดน Re-raise ก็ให้เรา Re-raise ใส่เขาด้วย Range กว้างๆได้เลย เช่นพวก A2+, K5+, Q9+, J9+, T8+, 22+ และ Suited Connectors ต่างๆ แต่ก็อย่าใช้บ่อยเกินไปนักเพราะอีกฝ่ายจะเริ่มจับทางได้และหาวิธีรับมือคุณด้วยตำแหน่งที่ดีกว่า

Call ด้วย Pocket Pair เสมอจาก SB

ไพ่ที่แนะนำให้ Call เสมอเวลาอยู่ SB คือพวก Pocket Pair เล็กๆกลางๆทั้งหลาย มือพวกนี้เหมาจะ Call มากกว่า Suited Connectors เพราะถ้า Flop ออกคุณจะรู้ได้ทันทีว่ามือเรายังแข็งแกร่งอยู่มั้ย และด้วย Deep Stack เราเสี่ยงแค่ประมาณ 3BB เพื่อมีโอกาสลุ้นกิน 100BB ได้ บางคนอาจจะหมอบคู่เล็กๆอย่าง 22 เพราะกลัวจะโดน Set Over Set และต้องตกรอบไป เอาจริงๆมันก็ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยและอาจจะมองเป็นแค่โชคร้ายพร้อมกับเดินหน้าไปเล่นทัวร์ต่อไปก็ได้ แต่ถ้าติด Set มาแล้วอีกฝ่ายมี Overpair หรือ Top Pair ดีๆบอกเลยว่าเรากินเต็ม

เจอกับคน Limp มา

ถ้าก่อนหน้าคุณมีคน Limp มาก็ให้เรา Call ตามด้วยไพ่ที่พอเล่น Post-flop ได้ดี เช่น ถ้าถือ J3o แล้วมีคน Limp มาก่อนหน้า 3 คนก็ให้หมอบแม้เราจะได้ Pot Odds คุ้มเกินคุ้มหรือบางคนอาจจะบอกว่าตรงนี้ Call ได้และจะเล่นต่อเมื่อติด Two Pair หรือดีกว่าเท่านั้น คือมันก็ใช่แต่ลองคิดดูว่าถ้าเราติด J3 บนบอร์ด J-8-3 มือของเราก็ดูไม่ค่อยจะเก่งเท่าไหร่เพราะมีไพ่ตรง Turn เยอะมากที่ออกมาแล้วแย่สำหรับเรา พยายามหลีกจาก Variance ตรงนี้และเก็บชิพไว้ดีกว่า

ส่วนเราควร Raise เวลาเจอพวกนัก Limp ก็ต่อเมื่อมีมืออย่าง AJ+, KQ, 77+ และ Suited Connectors ใหญ่ๆบ้างเป็นบางครั้ง หรืออาจจะผสม Raise ด้วยไพ่กากไปเลยด้วยก็ได้แต่ไม่ต้องบ่อย

ถ้าเหลือแค่เรากับตำแหน่ง BB

ถ้าทุกคนหมอบหมดจนมาเหลือเรากับ BB แค่ 2 คน ตรงนี้เราจะเล่นอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับตำแหน่ง BB แล้วว่าเราอ่านเขาเป็นแบบไหน ถ้าตำแหน่ง BB เล่นเก่งและ Aggressive ให้เรา Tight ขึ้น หรือถ้าเรารู้ว่าอีกฝ่ายชอบ Re-raise ก็ให้เรา Limp-Call ด้วยไพ่อย่าง Q9s, 65s และ 33 โดยเราจะได้กำไรจากผู้เล่นพวกนี้เวลาเราติดไพ่และอาศัยความ Aggressive ของเขาทำร้ายตัวเอง หรือถ้าเราเจอกับอีกฝ่ายที่ Tight Passive คุณก็สามารถ Raise ได้ทุกมือเลยในช่วง Pre-flop เพราะเราจะได้กำไรจากการที่เรา Raise และไป C-bet และเขาหมอบ แต่ผู้เล่นส่วนใหญ่จะเป็นผสมๆกันระหว่าง 2 สไตล์นี้ ถ้าเราไม่รู้ข้อมูลอีกฝ่าย แนะนำให้ Raise ประมาณ 22+, A2+, K7+, Q8+, J8+, T7+ และ Suited Connectors ทั้งหมดจากนั้นค่อยมาปรับพอเราเริ่มรู้สไตล์อีกฝ่ายแล้ว

แสดงความเห็น