Range Construction คืออะไร
ก่อนที่จะทำความเข้าใจว่า Range Construction คืออะไร เราจำเป็นที่จะต้องเข้าใจก่อนว่า ‘Range’
และ ‘การคิดเป็น Range’ คืออะไร
.
Range คือตาราง 13×13 ที่บอกถึงจำนวนแฮนด์ทั้งหมดที่ผู้เล่นคนหนึ่งสามารถมีได้ โดยในส่วนด้านบนที่มีตัว s ต่อท้าย
คือหมายถึง แฮนด์ที่เป็นดอกเดียวกัน (Suited hand) ส่วนที่เป็นตัว o ต่อท้ายหมายถึงแฮนด์ที่เป็นคนละดอก (Off-suit hand)
ซึ่งจำนวนคอมโบของแฮนด์ 2 ประเภทก็จะแตกต่างกัน ยกตัวอย่างเช่น AKs จะมีทั้งหมด 4 คอมโบ
ส่วน AKo จะมีได้ทั้งหมด 12 คอมโบ
โดยปกติตอนที่ทุกคนเริ่มเล่นโป๊กเกอร์ เมื่อได้รับไพ่ 2 ใบมาในมือ เราก็จะคิดแค่ว่าเราจะเล่นไพ่ 2 ใบนี้ยังไง
แต่การคิดเป็น Range คือการคิดภาพรวมของ Range เราและคู่ต่อสู้ ว่าเรามีอะไรบ้างใน Range
เค้าสามารถมีอะไรได้บ้าง แล้ว Range ใครได้เปรียบมากกว่าในบอร์ดนั้น ๆ
.
ยกตัวอย่างเช่น
BTN open แล้ว BB คอล บอร์ดเปิดออกมาเป็น A♣K♦2♥ ในกรณีนี้ Range ของ BTN
จะมีความได้เปรียบทำให้ BTN สามารถ Bet ได้บ่อย เนื่องจาก BB ไม่มีแฮนด์ AA, KK, AK, AQ
เพราะว่า BB แค่คอลไม่ได้ 3bet ใส่การ Raise ของ BTN
ตัวอย่างการ Construct range
Range Construction คือการคิดว่าเราจะเล่นทั้ง Range ของเรายังไง แฮนด์ไหนบ้างใน Range
ที่จะ Bet, Check, Raise หรือ Fold เราสามารถทำได้ตั้งแต่ Preflop จนไปถึง River โดยสามารถ
ทำผ่าน Flopzilla, Equilab, หรือทำบนเว็บ https://pokercoaching.com/range-analyzer/ เลยก็ได้
ในการทำ Range Constuction เราจำเป็นที่จะต้องรู้และเข้าใจหลักการบางอย่างด้วยเหมือนกัน เช่น
- Polarize / Linear Range (ใช้ในการคิดเวลา Bet, Raise และ Check)
- Minimum Defense Frequency (ใช้ในการคิดเวลาต้อง Call หรือ Fold)
- Value to Bluff Ratio (ใช้ในการคิดเวลา Bet ว่าจะต้องมีแฮนด์ Bluff กี่คอมโบเทียบกับแฮนด์ Value)
.
ยกตัวอย่างเช่น
Pot 1.5
BTN open 2.5, BB call,
เรามาลอง Construct Range ในมุมของ BTN ดูนะครับ
เริ่มแรกเลยเรา Open raise 2.5 นี่คือ Range RFI ของแฮนด์ที่เราจะ Raise ตรงนี้ครับ
Flop : K♥7♦5♦
Pot 5.5
BTN bet 1.8, BB call
ตรงนี้เรา Bet range นะครับเพราะว่าเป็นบอร์ด K high ทำให้เราสามารถที่จะ Bet ทุกแฮนด์ใน Range
เราได้ด้วยไซส์เล็ก ดังนั้น Range ของเราก็ยังมีครบทุกแฮนด์นะครับ (เนื่องจากเรามี Range Advantage)
Turn : K♥7♦5♦2♣
Pot 9
BTN bet 6.8 (75%), BB call,
ตรงนี้เราจะเริ่ม Bet แบบ Polarize มากขึ้น โดยเราจะ Bet แฮนด์ที่ดีที่สุดเพื่อเอา Value
และ Bet แฮนด์ที่แย่ที่สุดในฐานะ Bluff ส่วนแฮนด์กลาง ๆ เราจะ Check
สัดส่วนระหว่าง Value กับ Bluff ถ้าอยากได้แบบเป๊ะ ๆ ก็แล้วแต่ไซส์ที่เราเลือก Bet
สมมติตรงนี้เราเลือกที่จะ Bet 75% สัดส่วนก็จะเป็น Value 7 : Bluff 3
ที่มา https://pokercoaching.com/home/
River : K♥7♦5♦2♣6♦
Pot 22.6
BTN bet 17 (75%), BB fold
ตรงนี้เราก็จะเบทแบบ Polarize เหมือนเดิม โดยเริ่มจากแฮนด์ที่ดีที่สุด
Over pair – AA เราจะ Bet เฉพาะคอมโบที่มีบล็อกสี (Diamond)
Two pairs – 75s, K2s, K5s, K7s
Set – 22, 55, 77, KK
Flush – Q♦8♦, Q♦6♦, Q♦4♦, Q♦3♦, J♦8♦, J♦6♦, J♦4♦, T♦8♦, T♦6♦, 9♦8♦, 9♦6♦, 8♦6♦
(ทั้งหมดเป็นแฮนด์ที่เรา Semi-bluff มา)
ส่วนแฮนด์ที่จะ Bluff ตรงนี้ก็จะมี Q9o, J9o, T9o ทั้งหมดจะเป็นแฮนด์ที่แย่ที่สุดใน Range เรา
มีบล็อก Straight (9x) และจะเลือกเป็นคอมโบที่มีบล็อกสี (Diamond) ทั้งหมด
สรุป
การทำ Range Construction เป็นการทบทวนนอกโต๊ะที่ดีมาก แน่นอนว่าเราไม่สามารถคิดทั้งหมดระหว่างเล่นอยู่ได้
แต่ถ้าเรามาฝึกแบบนี้นอกโต๊ะเราก็จะเริ่มจำได้มากขึ้นและสามารถเอาไปใช้ตอนเล่นจริงได้เยอะขึ้น
เราสามารถทำได้ทั้งกับ Range ของเราและคู่ต่อสู้ ซึ่งมันจะช่วยให้เราเข้าใจ Range ของเราดีขึ้น
ทำให้ตัดสินใจได้ดีขึ้นว่าจะเล่นยังไงกับแต่ละแฮนด์ และอีกอย่างนึงคือ เมื่อเราชินกับการคิดเป็น Range แบบนี้แล้ว
ก็จะทำให้เราสามารถเดา Range ของคู่ต่อสู้ได้ดียิ่งขึ้นด้วย
.
หมายเหตุ : การทำ Range Construction ในตัวอย่างเป็นเพียงความคิดเห็นในการเล่นส่วนตัวของผู้เขียนบทความ
อาจมีจุดที่ผิดพลาดหรือไม่ตรงกับ GTO