พื้นฐาน การเล่นทัวร์นาเมนต์ – Pot Odds และ Implied Odds
พื้นฐานการเล่นทัวร์นาเมนต์ – Pot Odds และ Implied Odds
Pot Odds
ในการเล่นโป๊กเกอร์ ทุกครั้งที่เราจะ Call เราควรจะดู Pot Odds ที่เราได้รับทุกครั้ง และถ้าเรา Raise เราก็ต้องคิดด้วยเหมือนกันว่าอีกฝ่ายจะได้ Pot Odds ดีหรือไม่ แรกๆเราอาจจะยังงงและใช้เวลาคำนวณอยู่สักพัก แต่พอเล่นบ่อยๆเดี๋ยวเราก็จะเริ่มชินและสามารถกะๆเอาได้เอง
สมมติว่าเราถือ A♠4♠ บนบอร์ด 9♠6♠2♥ อีกฝ่าย All-in มา คุณจะ Call หรือไม่
แน่นอนว่าเราต้องดู Pot Odds ก่อน โดยถ้าเราคิดว่าเขามีอย่างน้อย Top Pair ขึ้นไปอย่างพวก 9-8 และไม่มีทางมี Flush Draw ในสถานการณ์นี้คุณจะมีโอกาสชนะ 42% และต้องการ Pot Odds ประมาณ 1.4:1 เพื่อให้เท่าทุน (Break even)
ถ้าเราได้เท่าทุนเราก็คงไม่อยากเล่นเท่าไหร่ อย่างถ้าพอทราคา 100 แล้วเราต้อง Call 100 เพื่อเล่นต่อเราก็ไม่ควร Call หรือถ้าพอทราคา 120 แล้วคุณต้อง Call 100 เพื่อเล่นต่อซึ่งตรงนี้ต้องการโอกาสชนะ 45% แต่คุณมี 42% ทำให้เราไม่ควร Call ตรงนี้เช่นกัน โดยโอกาสชนะ 45% ที่เอามาเทียบนี้เอามาจาก 100/220 = 45%
แต่ส่วนใหญ่เราจะเห็นใช้กันแบบ Odds มากกว่า อย่างถ้ามีชิพในพอทแล้ว 150 แล้วคุณต้อง Call เพิ่ม 100 คุณก็จะได้ Odds 1.5:1 เพราะทุกๆ 1 ชิพที่คุณลงเพิ่มในพอทจะมี 1.5 ชิพอยู่ในพอทแล้ว หรือถ้าในพอทมี 300 แล้วคุณต้อง Call 100 คุณจะได้เป็น 3:1
หรือถ้าใครไม่ถนัดก็ใช้เป็นแบบเปอร์เซ็นต์ได้โดยการนำเลขตัวที่สอง (ตามตัวอย่างก่อนหน้านี้คือ 1) แล้วหารด้วยผลรวมของเลขตัวที่หนึ่งกับตัวที่สอง (1+3 = 4) จากนั้นนำไปคูณ 100 เพราะฉะนั้น ที่ Odds 3:1 เราจะทำเป็นเปอร์เซ็นต์ได้ดังนี้
1/4 x 100 = 25%
ซึ่งนั่นหมายความว่าคุณต้องการไพ่ที่มีโอกาสชนะ 25% ในการ Call เพื่อให้เท่าทุน หรือลองให้เป็น 432:84 เราก็จะได้
84/(432+84) x 100 = 84/516 x 100 = 16%
ถ้าเจอเลขยากๆก็จะคำนวณยากหน่อย นั่นทำให้เวลาเล่นจริงเราจึงต้องกะๆเอา แต่ส่วนใหญ่ก็ไม่จำเป็นต้องคำนวณหรอก ถ้าเรารู้ว่าไพ่เรามีโอกาสชนะ 30% แล้วได้ Odds 6:1 คือยังไงก็เล่นได้อยู่แล้ว
Implied Odds
นอกจาก Pot Odds ก็มี Implied Odds นี่แหละที่สำคัญ Implied Odds ก็จะเป็นประมาณโอกาสที่เราคาดว่าจะได้ชิพเพิ่มจากอีกฝ่ายในอนาคต สมมติว่าเรากับอีกฝ่ายมีชิพ 1000 และเราถือ 8♠4♠ บนบอร์ด 9♠6♠2♥ ถ้าพอทราคา 100 และอีกฝ่าย Bet 100 คุณได้ Odds 2:1 ซึ่งแน่นอนว่าไม่คุ้มที่จะ Call แน่เพราะ Flush Draw ของเราโอกาสติดตรง Turn ประมาณ 20% ซึ่งเราควรจะได้ Odds 4:1 แต่ถึงอย่างงั้นเราก็ต้อง Call อยู่ดีเพราะเราหวังว่าถ้าติดขึ้นมาจะมีโอกาสกินเขาหนักๆได้ในรอบการ Bet ครั้งต่อไป เช่น ถ้าเราคิดว่าเขาจะ All-in แน่ๆตรง River ถึงเราจะได้ Pot Odds 2:1 แต่เราก็ควร Call เพราะจริงๆเรามี Implied Odds 11:1 ซึ่งมาจากการที่เราหวังว่า ถ้าเราติดไพ่ของเรา เราจะได้กินอีกฝ่ายหมดหน้าตักที่เหลืออีก 900
แต่แน่นอนว่าอีกฝ่ายคงไม่ All-in ทุกครั้งเพราะเขาอาจจะมีไพ่อ่อนๆอยู่หรืออาจจะเกิดกลัวขึ้นมาถ้าหน้า Flush ออก เราจึงต้องคิดเพื่อลดจำนวน Odds เราลง อาจจะเหลือประมาณ 7:1 ซึ่งก็ยังคุ้มที่จะ Call อยู่ดี หรือถ้าเรา Call แล้ว Turn ออกไพ่อย่าง J♦ แล้วอีกฝ่าย Bet 200 ในพอท 300 และเหลือหน้าตัก 700 เราก็ควร Call ไปอีกอยู่ดี ตรง Turn นี้เราได้ Pot Odds 5:2 ซึ่งต้องการโอกาสชนะ 28% แน่นอนว่าไม่คุ้มแต่ตรงนี้ดูแล้วอีกฝ่ายมีโอกาส All-in ที่ River สูงเพราะเขา Commit ไปแล้ว เพราะฉะนั้น Implied Odds ของเราจะเป็น 7:3 (700 ที่เหลือของเขาเทียบกับราคาพอท 300) รวมกับ Odds 5:2 ก่อนหน้าทำให้สรุปแล้วเราได้ Odds 4:1 เพราะคุณ Call 200 เพื่อเสี่ยงเอาชนะพอทราคา 1200 ที่มาจากการคาดการณ์ว่าเขาจะ All-in ตรง River ซึ่งถ้า River ไม่ติดเราก็หมอบได้สบายๆ แต่ถ้าติดเรากินเต็มแน่นอน
คิดลด Odds
แต่เราก็อย่าลืมคิดลด Odds ของเราด้วยว่า ถ้าติด Flush เราก็อาจจะแพ้ให้กับ Flush ที่สูงกว่าหรือถ้า Flush ออกอีกฝ่ายอาจจะกลัวและไม่ All-in หรือถ้าสมมติเขาเลือก All-in 500 ชิพในพอทราคา 100 ชิพและคุณถือ 8♠4♠ บนบอร์ด 9♠6♠2♥
เหมือนเดิม ตรงนี้เราควรหมอบ เพราะคุณเสี่ยง 500 เพื่อเอาเงิน 600 ทำให้คุณได้ Odds 6:5 ที่แย่กว่า 2:1 นั่นหมายความว่า ยิ่งมี Deep Stack เท่าไหร่ยิ่งมี Implied Odds ที่ดีเท่านั้น
หรือเราอาจจะติดกับ Reverse Implied Odds แทนก็ได้ ซึ่งหมายความว่า แม้จะติดไพ่ที่เราคิดว่าจะทำให้ชนะแต่กลายเป็นว่าเราก็ยังแพ้อยู่ดี เช่นพวกมือ A-J หรือ K-T ถ้าสมมติว่าอีกฝ่าย Open จาก EP แล้วคุณ Call ด้วย A-T คุณควรจะเล่นระวังๆถ้าบอร์ดออก A-x-x เพราะอีกฝ่ายอาจจะมี A ที่ Kicker ดีกว่าเราและเราจะเสียเงินซะเอง สถานการณ์แบบนี้จะทำให้เราเวลาได้ก็ได้น้อยแต่เวลาเสียจะเสียเยอะ
เวลา Deep Stack ไพ่อย่าง A-A จะยิ่งเล่นยาก หรือพวก Top Pair Overpair ต่างๆควรจะเล่นพอทเล็กๆเวลา Deep เพราะเรามีโอกาสเสียเยอะ แต่ถ้าเรา Short อย่างประมาณ 40BB Reverse Implied Odds จะมีผลน้อยเพราะเราเสียก็เสียไม่เยอะมากทำให้พวก A-A หรือ Top Pair เล่นได้ดี
เรื่อง Odds ต่างๆก็จะประมาณนี้ มันจะทำให้เรารู้ว่าการเล่นเราตอนนั้นทำให้เสียเงินหรือได้เงิน ถ้าเอาไปฝึกใช้แรกๆอาจจะงงๆหน่อยแต่พอใช้ไปเรื่อยๆเราจะชินและเริ่มจำสถานการณ์แต่ละแบบได้ซึ่งจะช่วยให้เราเล่นได้ง่ายขึ้นไปอีก เดี๋ยวบทความต่อไปจะมาพูดถึงเรื่อง Effective Stack ที่สำคัญมากเช่นกันในการเล่นทัวร์นาเมนต์