เทคนิคการเล่นบน Flop – Floating

เทคนิคการเล่นบน Flop Floating

การ Float ก็คือการที่เรา Call ตามไปโดยหวังว่าจะไปชนะอีกฝ่ายทีหลัง อาจจะชนะด้วย Value หรือ Bluff ก็ได้ การ Float ถือว่าต่อกรด้วยยากมากเพราะเราจะไม่รู้ข้อมูลเลยว่าคนที่ Float ตามมาด้วยอะไร คน Float เก่งๆจะ Call ผสมกันทั้งไพ่แข็งๆ พวก Weak Made Hand หรืออาจจะเป็น Bluff ล้วนๆเลยก็มี

Float เวลามีตำแหน่งที่ดีกว่า

เช่น มีคน Raise 3BB แล้วเรา Call ในตำแหน่ง LP ตรงนี้เราจะมี Range กว้างมาก ถ้า Flop ออก 8-7-3 แล้วอีกฝ่าย Bet และเรา Call ตรงนี้เราก็ยังมี Range กว้างอยู่ดี และถ้าเกิดเขา Check มาให้ตรง Turn เราก็สามารถ Bet กลับด้วย Range กว้างได้อยู่ ซึ่งการที่เรา Bet Turn ตรงนี้อีกฝ่ายจะ Call ยากมากด้วยมือที่ต่ำกว่า Middle Pair หรือบางคนอาจจะยอมหมอบเลยก็ได้ เพราะถ้าตามตัวอย่างเราสามารถมี 88, AA, 76, T9, QJ, 54 หรือมือสุ่มๆก็ได้ สถานการณ์แบบนี้มือเราแทบจะไม่เกี่ยวแล้ว ขอแค่เรา Bet ก็มีโอกาสกินพอทนั้นไปได้เลย

อีกสถานการณ์ที่ Float ได้บ่อยๆคือ เรา Call ในตำแหน่ง LP แล้วบอร์ดออก A-x-x ถ้าอีกฝ่าย Bet ตรงนี้คุณก็สามารถ Call ตามได้ด้วย Range ที่กว้างมากโดยเฉพาะมือที่มีพวก Gutshot เพราะผู้เล่นส่วนมากที่ C-bet จะ Check-Fold ตรง Turn ถ้าเขาไม่มี A จริงๆ

Float เวลามีตำแหน่งที่แย่กว่า

การ Float ก็เหมือนกับการบลัฟ แค่เป็นการบลัฟที่ประหยัดเงินหน่อย การที่เรา Float ตรง Flop ไม่ได้ทำให้เราลงทุนมากเกินไป (Commit) จนต้องไปฝืนเล่นต่อตรง Turn ถ้าเขายัง Bet ต่ออยู่ก็ถึงเวลาที่เราจะหมอบแล้วถ้าไม่ติดอะไร ซึ่งโดยปกติการ Float เวลามีตำแหน่งที่แย่กว่ามักจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เพราะอีกฝ่ายที่ตำแหน่งดีกว่าสามารถ Check ตรง Turn เพื่อ Pot Control แล้วไปรอ Call หรือจับบลัฟเราตรง River ได้ มันจึงยากที่เราจะขโมยพอทหรือทำกำไรเวลาติดไพ่ขึ้นมา

Delayed Floating

การดีเลย์โฟลทก็คือการที่เรา Float ตรง Flop แล้วไป Check ตรง Turn และเราจะ Bet ตรง River ถ้าอีกฝ่ายยัง Check มาให้เราอีกรอบ การเล่นนี้ได้ผลดีเพราะมันช่วยให้เรา Represent มือพวก Top Pair ที่มี Kicker อ่อนๆได้ ถ้าเราเห็นเขามี Range ที่ส่วนใหญ่จะมีแต่ไพ่อ่อนๆเราก็สามารถ Bet กินพอทตรงนี้ได้ทุกครั้ง

เช่น สมมติคุณมีหน้าตัก 70BB และ Raise 2.5BB ด้วย 8♠7♠ จาก BU และ SB Re-raise 7.5BB คุณ Call ไปและ Flop ออก A♣9♦9♥ อีกฝ่าย Bet ต่อ 10BB และคุณ Call จากนั้น Turn ออก 2♠ เขา Check คุณจึง Check กลับซึ่งตรงนี้ถ้าคุณมี A ก็ควรจะ Check พอ River ออก 5♦ อีกฝ่าย Check อีกรอบ ตรงนี้คุณสามารถ Bet ประมาณครึ่งพอทหรือสัก 16BB และมีโอกาสขโมยพอทไปได้บ่อยๆเลย

จะเห็นเลยว่าเป็นบอร์ดที่ถ้าไม่มี A ก็มี 9 หรือไม่ก็ Float ซึ่งพอเรา Check Turn อีกฝ่ายก็ไม่คิดว่า Range เรามีพวก Float แล้ว ทีนี้พอเราเห็นเขา Check ติดกัน 2 ครั้งตรง Turn และ River จึงทำให้เรารู้ว่า Range เขาไม่น่าจะมี A หรือ 9 แล้ว ซึ่งทำให้เราสามารถ Bet ประมาณครึ่งพอทตรง River ให้เหมือนกับ Value Bet ได้และเขาก็จะ Call ได้ยากตรงนี้ด้วยมืออ่อนๆ

เจอกับ Floating แก้อย่างไรดี

ถ้าเราคิดว่าตัวเองโดน Float อยู่ ให้เราพยายาม Check-Call ด้วยพวก Made Hand ดีๆหน่อยและเน้นบลัฟด้วยการ Double Barrel หรือ Triple Barrel ให้มากขึ้น เช่น ถ้าเรารู้ว่าอีกฝ่ายเล่นเป็นและชอบ Float เราก็สามารถ Bet ตรง Flop แล้วไปยิงซ้ำอีกทีตรง Turn ได้แม้ไม่ติดไพ่อะไรเลย แค่นี้ก็เพียงพอที่จะทำให้เขาหมอบแล้ว แต่ถ้าเขายัง Call มาอยู่คุณก็แน่ใจได้แล้วว่าเขามีไพ่อยู่จริงๆ

หรือถ้าเราติดไพ่ใหญ่ๆเลย เราก็ไม่ควร Check-Raise เวลาเจอกับนัก Float ทั้งหลายเพราะเราอยากให้เขายิงใส่เราเรื่อยๆ  โดยอาจจะ Check-Call ทั้งตรง Flop และ Turn แล้วไป Check-Raise ทีเดียวตรง River เลย มันอาจจะดู Passive หน่อยแต่เชื่อเถอะถ้าอีกฝ่ายกล้าเล่นท่ายากแบบนี้ก็มีแนวโน้มสูงที่เขาจะยิงมาอีกทีตรง River

สรุปแล้วคือถ้าเรา Float แล้วยังเห็นเขายัง Check-Call หรือ Bet มาซ้ำสักทีสองที ก็ให้เรายอมๆและหมอบไปได้เลยเพราะส่วนใหญ่เขาจะมีไพ่อะไรสักอย่างแล้ว ไม่ต้องพยายามไปฝืนเล่นท่ายากเพราะแทนที่เราจะทำเงินจากการ Float จะกลายเป็นว่าเสียหายหนักๆแทน

แสดงความเห็น